Trandar AMF
เมื่อ “น้ำหนักฝ้า” กลายเป็นอุปสรรคในการหนีเอาตัวรอด
เมื่อเกิด แผ่นดินไหว,เหตุเพลิงไหม้ หนึ่งในสิ่งที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง แต่กลับมีผลต่อ “โอกาสรอดชีวิต” อย่างมากคือ ฝ้าเพดานที่ร่วงหล่น แม้ฝ้าเพดานจะดูเหมือนเป็นแค่ส่วนตกแต่งภายใน แต่หากเลือกวัสดุผิดประเภท หรือใช้ระบบติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน น้ำหนักของแผ่นฝ้าที่ตกลงมา อาจกลายเป็นอันตรายร้ายแรงในช่วงเวลาไม่กี่วินาที
ทำไมฝ้าจึงร่วงหล่นในภาวะฉุกเฉิน?
แผ่นดินไหว
แรงสั่นสะเทือนทำให้โครงฝ้าสั่นตาม โดยเฉพาะระบบ ทีบาร์ (T-Bar) ที่มีการแขวนลอยจากโครงเหล็กบาง หากวัสดุยึดไม่แน่น หรือใช้วัสดุ T-bar ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ยึดเกาะกัน พร้อมที่จะร่วงได้ตลอดเวลาซึ่งอาจทำให้ทั้งโครงและแผ่นตกลงมาได้
เพลิงไหม้
ไฟอาจไม่ได้ไหม้ฝ้าทันที แต่ ควันร้อน ทำให้ฝ้าเสียรูป / สกรูหลุด และฝ้าเริ่มตก ร่วงในจังหวะที่คนกำลังอพยพออก
“น้ำหนักฝ้า” มีผลแค่ไหน ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน?
ในเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่าง แผ่นดินไหวหรือไฟไหม้ ฝ้าเพดานที่หล่นลงมาอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการหนีเอาตัวรอด โดยเฉพาะหากเป็นฝ้าที่ หนัก แตก หรือมีขอบคม เสี่ยงทำให้บาดเจ็บหรือหมดสติได้
ข้อสังเกต
เมื่อเทียบกันแล้ว มิเนอรัลไฟเบอร์บอร์ด (Mineral Fiber Board) เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาที่สุด เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ อาคารสูง สนามบิน โรงพยาบาล หรือพื้นที่ที่มีข้อกำหนดเรื่อง "Evacuation safety"
มาดูกันว่าฝ้าT-Bar ในท้องตลาดมีวัสดุประเภทอะไรบ้าง
- ไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักมากที่สุด แข็ง และมีความคม อาจเกิดอาการบาดเจ็บได้มากที่สุด
- ยิปซั่ม แม้จะนิยมใช้ แต่มีน้ำหนักมากและแตกเป็นแผ่นใหญ่ หากร่วงใส่คนจะมีแรงกระแทกมาก
- ซอฟท์เฟลท์ (Soft Felt) ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา หากร่วงหล่นจะกระจายแรง ไม่เกิดการบาดเจ็บรุนแรง
- มิเนอรัลไฟเบอร์ เป็นวัสดุที่เบาที่สุดในกลุ่มฝ้า เหมาะกับอาคารสาธารณะ โรงเรียน โรงพยาบาล หรืออาคารที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ วัสดุฝ้าที่เบาและยืดหยุ่น เช่น Soft Felt หรือ Mineral Fiber จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากเกิดเหตุไม่คาดฝันได้มากกว่าฝ้าหนักแต่จะต้องเลือกฝ้าที่ไม่มีลามไฟด้วยเช่นกันเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง